IMURATHAILAND

การฟื้นฟูหลังการทำคีโม การดำเนินชีวิต อย่างมีความสุขและแข็งแรงของผู้ป่วยมะเร็ง

การฟื้นฟูหลังการทำคีโม

การฟื้นฟูหลังการทำคีโม

แน่นอนการเป็นมะเร็ง สิ่งที่จะรักษาและมีโอกาสหายได้นั่นก็คือการทำ เคมีบำบัดเป็นวิธีการรักษาโรคมะเร็งโดยทั่วไป และถึงแม้เคมีบำบัดจะมีประสิทธิผลในการต่อสู้กับโรคนี้ แต่ก็อาจส่งผลอย่างมีนัยสำคัญทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจต่อผู้ป่วยด้วย หลังจากเสร็จสิ้นการรักษาด้วยเคมีบำบัด ผู้ป่วยจำนวนมากต้องเผชิญกับการเดินทางอันยาวนานเพื่อการรักษาทั้งทางร่างกายและจิตใจ ในบทความนี้ เราจะมาทุกท่านไปทำความรู้จักกับอาการ ทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจของผู้ป่วยอ ที่ทำเคมีบำบัด รวมถึงการรักษาและการฟื้นตัว ผลกระทบทางกายภาพของเคมีบำบัดสามารถมีผลกระทบทางกายภาพต่อผู้ป่วยได้หลากหลาย ผลข้างเคียงที่พบบ่อยที่สุด ได้แก่ อาการคลื่นไส้ อาเจียน และเบื่ออาหาร ผู้ป่วยอาจรู้สึกเหนื่อยล้าและอ่อนแรง ทำให้ทำกิจกรรมประจำวันได้ยาก ผมร่วงและการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหน้าตาอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกวิตกกังวล ส่งผลต่อความภาคภูมิใจในตนเองและความมั่นใจ

นอกจากผลกระทบทางกายภาพแล้ว เคมีบำบัดยังสามารถส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเป็นอยู่ทางอารมณ์และจิตใจของผู้ป่วยอีกด้วย ผู้ป่วยจำนวนมากมีความวิตกกังวล ซึมเศร้า และโรคเครียดหลังเหตุการณ์สะเทือนใจ (PTSD) ความกลัวการกลับเป็นซ้ำและความไม่แน่นอนเกี่ยวกับอนาคตก็สามารถทำให้เกิดความวิตกกังวลได้เช่นกัน ฉะนั้น การฟื้นฟูหลังการทำคีโม ก็จะมีหลากหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็น การเรารับคำปรึกษาจากทางแพทย์ การฝึกสติ ที่สามารถช่วยผู้ป่วยจัดการอารมณ์เหล่านี้และปรับปรุงสุขภาพจิตของตนเองได้

กระบวนการ การฟื้นฟูหลังการทำคีโม ผู้ป่วยสามารถใช้เทคนิคดูและตัวเอง เพื่อส่งเสริมการรักษาได้

การดูแลตนเอง เช่น การออกกำลังกาย การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และการพักผ่อนอย่างเพียงพอสามารถช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นความแข็งแรงและพลังงานได้ การรักษาทางเลือก เช่น การฝังเข็ม การนวด และการทำสมาธิ ยังมีประโยชน์ในการจัดการอาการทางร่างกายและอารมณ์อีกด้วย นอกจากนี้ การสร้างความสัมพันธ์ขึ้นใหม่และการค้นหาความรู้สึกใหม่ของจุดมุ่งหมายและความหมายในชีวิตสามารถช่วยให้ผู้ป่วยก้าวไปข้างหน้าและยอมรับความปกติใหม่ของพวกเขา

เคล็ดลับการบริโภคอาหารสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งสามารถปฏิบัติตามได้

เพื่อช่วยจัดการกับอาการและปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของผู้ป่วยโรคมะเร็ง การรับประทานอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยๆ ตลอดทั้งวันสามารถช่วยลดอาการคลื่นไส้และปรับปรุงความอยากอาหารได้ ในขณะที่การเลือกอาหารที่มีสารอาหารหนาแน่น เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ผลไม้ และผัก จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการทำงานอย่างเหมาะสม ผู้ป่วยโรคมะเร็งจะต้องดื่มน้ำให้เพียงพอและหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล ซึ่งอาจทำให้ภาวะขาดน้ำและอาการอื่นๆ รุนแรงขึ้นได้
สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งบางราย อาจจำเป็นต้องใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและอาหารเฉพาะทางเพื่อตอบสนองความต้องการทางโภชนาการของพวกเขา อาหารเสริมและอาหารเหล่านี้ช่วยให้ร่างกายได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อการรักษาและฟื้นฟู และยังอาจช่วยลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนอีกด้วย เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งที่จะทำงานร่วมกับนักโภชนาการที่ลงทะเบียนเพื่อพัฒนาแผนโภชนาการส่วนบุคคลที่คำนึงถึงความต้องการและความชอบเฉพาะของผู้ป่วยเอง และนอกจากนี้ การบำบัดเสริม เช่น การฝังเข็มและการทำสมาธิ อาจมีประโยชน์ในการจัดการผลข้างเคียงที่เกี่ยวข้องกับโภชนาการ และปรับปรุงคุณภาพชีวิตโดยรวมได้เช่นกัน

ผลิตภัณฑ์ I.M.U.RA อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ทำคีโม ทานได้

แม้ว่าเคมีบำบัดจะมีประสิทธิภาพในการรักษาโรคมะเร็ง แต่เคมีบำบัดก็อาจมีผลข้างเคียงที่สำคัญต่อร่างกายเช่นกัน ผลข้างเคียงเหล่านี้อาจรวมถึงอาการคลื่นไส้ เหนื่อยล้า ผมร่วง และระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแออาจทำให้ร่างกายต่อสู้กับการติดเชื้อและการเจ็บป่วยอื่นๆ การรักษาสุขภาพที่ดีระหว่างการทำเคมีบำบัดถือเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลร่างกายให้พร้อมกับการต่อสู้กับโรคมะเร็งและการฟื้นตัวจากการรักษา ซึ่งรวมถึงการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพและการออกกำลังกายเป็นประจำ

ไอ.เอ็ม.ยู. ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร I.M.U.RA ได้รับการออกแบบมาเพื่อสนับสนุนระบบภูมิคุ้มกันและสุขภาพโดยรวมระหว่างการทำเคมีบำบัด อาหารเสริมเหล่านี้มีส่วนผสมของส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น เบต้ากลูแคน สารต้านอนุมูลอิสระ และวิตามินดี เบต้ากลูแคนเป็นน้ำตาลเชิงซ้อนที่พบในผนังเซลล์ของเชื้อรา แบคทีเรีย และธัญพืชบางชนิด แสดงให้เห็นว่าสามารถกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและปรับปรุงสุขภาพโดยรวมได้ สารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีและอี ช่วยปกป้องร่างกายจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ วิตามินดีมีความสำคัญต่อสุขภาพกระดูกและการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร I.M.U.RA สามารถช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและดูแลสุขภาพในระหว่างการทำเคมีบำบัด ด้วยการให้สารอาหารที่จำเป็นแก่ร่างกายเพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร I.M.U.RA สามารถช่วยลดผลข้างเคียงของเคมีบำบัดและปรับปรุงสุขภาพให้กลับมาฟื้นตัวได้เร็วกว่ากลุ่มคนป่วยด้วยกัน

การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร I.M.U.RA ในระหว่างการทำเคมีบำบัด กาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ได้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิผลของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร I.M.U.RA ในการส่งเสริมสุขภาพระหว่างการทำเคมีบำบัด จากประวัตของผู้ป่วยมะเร็งเต้านมที่รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร I.M.URA ระหว่างการรักษาด้วยเคมีบำบัดมีผลข้างเคียงน้อยกว่า เช่น ความเหนื่อยล้าและคลื่นไส้ เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร การวิจัยพบว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร I.M.U.RA ช่วยสร้างและดูและคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัด เมื่อเปรียบเทียบกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอื่นๆ เสริมอาหาร ผลิตภัณฑ์ I.M.U.RA แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับผู้ป่วยทำคีโมได้ดีมากกว่าผลิตภัณฑ์ตัวอื่นๆ

ยาเคมีบำบัด คืออะไร

ยาเคมีบำบัด

ยาเคมีบำบัด หรือบางท่านอาจเรียกสั้นๆ ว่า “คีโม” ย่อมาจาก “คีโมเทอราปี” (chemotherapy) หมายถึง สารเคมีหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ ต้านหรือทำลายเซลล์มะเร็ง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็ว และต่อเนื่อง ยาเคมีบำบัดจะออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง หลายรูปแบบ ทำให้เซลล์ไม่สามารถแบ่งตัวต่อไปและตายในที่สุด
.ยาเคมีบำบัด
แม้ว่าปัจจุบันยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็งส่วนมากยังเป็นการใช้ยาเคมีบำบัด แต่ยาต้านมะเร็งยังรวมถึงยากลุ่มอื่นที่มีฤทธิ์ต่อต้านการเจริญเติบโตของ เซลล์มะเร็งด้วยเช่นกัน ยาเคมีบำบัดแตกต่างจากยาต้านมะเร็งกลุ่มอื่นด้วย กลไกการออกฤทธิ์ไปขัดขวางกระบวนการแบ่งเซลล์ในระยะต่างๆ โดยตรง ขณะที่ยาต้านมะเร็งอื่น เช่น ยาต้านฮอร์โมน ออกฤทธิ์ต้านการสร้างหรือการใช้ ฮอร์โมนในการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า (targeted therapy) อาจออกฤทธิ์ต้านการทำงานของโปรตีนในเซลล์มะเร็ง แล้วจึงมีผล ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในภายหลัง
.
เคมีบำบัด คือ การนำสารเคมีหรือยามาใช้ในการรักษามะเร็ง ยาเหล่านี้ถือว่าเป็นยาต่อต้านมะเร็ง ยาเคมีบำบัดจะเข้าไปขัดขวางขบวนการเจริญเติบโตของวงจรชีวิตเซลล์ทำให้เซลล์ตาย ยาแต่ละตัวออกฤทธิ์แตกต่างกัน ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งอาจให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอย่างเดียว บางแผนการรักษาประกอบด้วยยาหลายชนิดที่ให้ร่วมกัน หรือให้ร่วมกับการรักษาวิธีอื่นเมื่อให้ยาเคมีบำบัดเข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายเซลล์มะเร็ง เเละทำลายเซลล์ปกติบางส่วนทำให้มีผลกระทบต่อเซลล์ปกติด้วย โดยเฉพาะเซลล์ที่มีการเจริญและแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว เช่นเซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร, เม็ดเลือด, เส้นผม และระบบสืบพันธุ์ (รังไข่, ลูกอัณฑะ) ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุของอาการข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ระยะหนึ่งในระหว่างการให้ยาแต่ละชุด

อาการข้างเคียงที่พบบ่อย เช่น คลื่นไส้อาเจียน, ผมร่วง, แผลในปาก, ปริมาณเม็ดเลือดลดลง เป็นต้น อาการข้างเคียงที่ต้องปรึกษาแพทย์ เช่น มีเลือดออกหรือเป็นแผลในปากมาก, มีผื่นหรืออาการแพ้, มีไข้ หนาวสั่น, ปวดมากบริเวณที่ฉีด, หายใจลำบาก, ท้องเดินหรือท้องผูกอย่างรุนแรง, ปัสสาวะหรืออุจจาระมีเลือดปน

วิธีปฏิบัติตนเมื่อมีอาการข้างเคียง

• รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย
• รับประทานครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง
• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด มีไขมัน และของทอดทุกชนิด
• ทำความสะอาดปากและฟันหลังอาหารทุกมื้อ
• ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ ให้พักผ่อนและสูดหายใจยาวๆ ลึกๆ ช้าๆ
• ควรรีบปรึกษาแพทย์ หากมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนมากตลอดวัน และรับประทานอาหารได้น้อยมาก
.
นอกจากนี้เราควรหาอาหารเสริมที่เสริมสร้างวิตามินให้กับร่างกายและช่วยให้การพักฟื้นหลังการทำคีโมได้เร็วขึ้นด้วย
.

“IMURA” (อิมูร่า) วิตามินอาหารเสริมสำหรับผู้ที่เตรียมเข้ารับคีโมและป้องกันความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
.
✅ปกป้องเซลล์ในร่างกาย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
✅สร้างภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ ชะลอความเสี่ยงของเซลล์
✅เตรียมพร้อมร่างกายก่อนทำคีโม
✅ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและร่างกายฟื้นฟูตัวได้ไวกว่าปกติ
✅ทำให้ทานอาหารได้และพักผ่อนได้เพียงพอ
✅ลดอาการบาดเจ็บจากแผลในปาก
✅ร่างกายได้วิตามินที่ครบถ้วน

ให้ IMURA ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คุณสามารถยืนหยัดสู้กับโรคร้ายให้ผ่านพ้นไปได้อย่างแข็งแรง

 

3วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคีโม ทำแล้วดี เพิ่มโอกาสหายขาดจากมะเร็งได้มากขึ้น

หลังทำคีโม
ฟื้นฟูร่างกาย
หนึ่งในวิธีรักษามะเร็งที่ช่วยเพิ่มโอกาสหายมากขึ้น คือการให้คีโมหรือยาเคมีบำบัด แม้ผลข้างเคียงหลังผู้ป่วยมะเร็งรับคีโมจะมีค่อนข้างมาก บางคนเกิดอาการแพ้คีโมรุนแรง ในขณะที่บางคนอาจรู้สึกคลื่นไส้อาเจียนเท่านั้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมด้านสุขภาพร่างกายก่อนให้คีโม ยิ่งคุณมีร่างกายที่แข็งแรงมากเท่าไหร่ ผลข้างเคียงที่เกิดก็ยิ่งน้อยลงมากเท่านั้น ดังนั้นก่อนให้คีโมผู้ป่วยจึงควรดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองให้พร้อม รวมถึงเรียนรู้วิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคีโมไว้ด้วย แต่ถ้าคุณยังไม่รู้ว่าหลังให้คีโมแล้วต้องปฏิบัติตัวอย่างไร วันนี้เรามี 3 วิธีช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังรับยาเคมีบำบัดมาฝาก วิธีที่ทำแล้วเห็นผล เพิ่มโอกาสหายขาดจากมะเร็งให้กับคุณได้มากขึ้น

3 วิธีทำแล้วดี ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคีโมให้กลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น

ทานอาหารครบ 5 หมู่ หลังคีโม

1. ทานแต่ของดีมีประโยชน์ฟื้นฟุร่างกายหลังคีโม

เรื่องอาหารการกิน ถือเป็นหัวใจสำคัญในการช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคีโมที่ผู้ป่วยและคนใกล้ชิดต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะหลังจากร่างกายรับคีโมเข้าสู่ร่างกายแล้ว ตัวยาเคมีบำบัดจะเข้าไปยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง รวมถึงไปทำลายการเกิดเซลล์มะเร็ง ซึ่งส่งผลให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายอ่อนแอลง การรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์จึงเข้าไปช่วยฟื้นฟูให้ร่างกายกลับมาแข็งแรงได้เร็วขึ้น โดยอาหารที่ควรรับประทานควรเน้นอาหารที่ปรุงสุกใหม่ มีโปรตีนสูง และควรเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย อาทิ ปลา หรือไข่ไก่ ที่สำคัญต้องดื่มน้ำสะอาดอยู่ตลอดเพื่อขับพิษและขับยาเคมีที่ตกค้างออกจากร่างกาย
ออกกำลังกายหลังคีโม
ออกกำลังกายหลังคีโม

2. ออกกำลังกายเบา ๆ ช่วยได้หลังคีโม

หลายคนที่เคยผ่านการให้คีโมเห็นข้อนี้แล้วคงแอบปฏิเสธอยู่ลึก ๆ เพราะลำพังจะประคองตัวให้ลุกนั่งยืนเดินยังลำบากเลย โดยเฉพาะผู้ที่มีอาการข้างเคียงรุนแรง ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่ได้ให้คุณลุกขึ้นมาออกกำลังกายหนัก ๆ เหมือนปกติ ไม่จำเป็นต้องเข้าฟิตเนส วิ่ง ว่ายน้ำ หรือทำกิจกรรมเสียเหงื่อขนาดนั้น เพียงแค่ลุกขึ้นมาจากเตียง แล้วเดินช้าอยู่ภายในบริเวณบ้านอย่างน้อยวันละ 20-30 นาที เพียงเพื่อให้เหงื่อได้ซึมออกมาบ้างเท่านั้น ทั้งนี้ก็เพื่อเสริมสร้างพลังกายและพลังใจ ให้คุณไม่หมกมุ่นครุ่นคิดอยู่แต่อาการข้างเคียง ให้ร่างกายได้ผ่อนคลายความตึงเครียดลงบ้าง โดยที่ขณะเดินอาจฝึกกำหนดลมหายใจเข้าออกตามไปด้วย ก็จะยิ่งทำให้คุณรู้สึกสงบ ความสุข สดชื่น แจ่มใส เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคีโมได้ดีทีเดียว
สภาพแวดล้อม

3. สร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

นอกจากปัจจัยเรื่องการดูแลอาหารและการออกกำลังกายแล้ว สภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยก็มีส่วนในการช่วยฟื้นฟูร่างกายหลังคีโมเช่นกัน โดยครอบครัวหรือคนใกล้ชิดผู้ป่วย ควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ใกล้ชิดธรรมชาติ แวดล้อมไปด้วยสิ่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ห่างไกลจากสารพิษ สารเคมี และมลพิษต่าง ๆ เพราะสิ่งเหล่านี้จะไปกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งมีโอกาสกลับมาได้อีก แถมยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของผู้ป่วยอีกด้วย เนื่องจากหลังให้คีโมระบบภูมิคุ้มกันรวมถึงร่างกายของผู้ป่วยจะอ่อนแอลง ทำให้เจ็บไข้ได้ป่วยได้ง่ายกว่าปกติ
หลังคีโม
จริงอยู่ที่อาการหลังให้คีโมเป็นสิ่งที่ผู้ป่วยมะเร็งทุกคนหวาดกลัว แต่อาการข้างเคียงก็เป็นเพียงแค่อาการชั่วคราวเท่านั้น หลังฤทธิ์ยาเคมีบำบัดสลายไป อาการเหล่านี้ก็จะหายตามไปด้วย ซึ่งถ้าคุณเตรียมร่างกายมาดี และทำตามวิธีฟื้นฟูร่างกายหลังคีโมที่เรานำมาฝากนี้ ใช้เวลาเพียงไม่นานก็สามารถผ่านช่วงเวลานี้ไปได้ กลับมามีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง มีโอกาสที่จะหายขาดจากมะเร็ง และใช้ชีวิตได้เป็นปกติอีกครั้ง

วิธีรับมือผลข้างเคียงจากการทำคีโม

วิธีรับมือผลข้างเคียงจากการทำคีโม

วิธีรับมือผลข้างเคียงจากการทำคีโม และเลือกใช้ อิมูร่า อาหารเสริมคนทำคีโม
โดยคุณโบ เพจแม่บ้านคีโมSuperBowl (Super bowl)

ตลอดระยะเวลาร่วม 3 ปีแล้ว “อิมูร่า” รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่คุณโบ และผู้ป่วยอีกมากมาย ให้ “อิมูร่า” ได้ร่วมเดินเคียงข้างในเส้นทางสายนี้ มันอาจจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบในทุกๆ วัน แต่เราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะบีบมือแน่นๆ ในวันที่อ่อนแอ

คุณโบ “การให้เคมีบำบัดอ่ะค่ะ มันก็ต้องมีแน่นอนอยู่แล้วแหละ ท้องผูกอะไรอย่างนี้ เราก็ต้องมีตัวช่วยเช่น ผักต้ม โปรไบโอติก คือเราก็พยายามสรรหาที่มันเหมาะสมกับเราที่สุดอ่ะค่ะ ถ้าพูดถึงเรื่องการนอนหลับเนี่ย มันก็ต้องมีตัวช่วยกันบ้าง โบว์ก็ยังกินอิมูร่า อยู่เหมือนเดิม ตั้งแต่เมื่อรอบที่แล้วที่เราเจอกันเมื่อ 2 ปีที่แล้ว จนถึงวันนี้ก็ยังกินอยู่ทุกวันค่ะ ตัวโบเองเนี่ยที่สัมผัสได้เนี่ย คือการนอนหลับตอนกลางคืน แบบหลับสนิทอ่ะค่ะ ไม่ฝันตอนกลางคืน ไม่ตื่นกลางดึก มันเลยทำให้สมองเราเนี่ย โกสฮอร์โมนมันหลั่งได้เต็มที่ พอตื่นมามันก็สดชื่นมันเหมือนกับเราได้พักแบบเต็มๆ อ่ะค่ะ”
.
มะเร็งเป็นโรคที่ท้าทาย และมีผลกระทบต่อคุณและครอบครัว แต่คุณไม่เดินทางคนเดียว มีครอบครัว ผู้เชี่ยวชาญ และทีมแพทย์ เคียงข้างคุณอยู่เสมอ โปรดนึกถึงเรา คุณไม่ได้ต่อสู้เพียงลำพัง มีทีมผู้เชี่ยวชาญและครอบครัวที่จะเป็นกำลังใจและสนับสนุนคุณตลอดการรักษา ขอให้คุณมีความสุขและความสดใสในทุกวัน และหากคุณต้องการคำปรึกษา หรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดูแลตนเองระหว่างการรักษา อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา ผู้เชี่ยวชาญที่ไว้วางใจได้
.
เราจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ การให้บริการให้คำปรึกษาและดูแลทุกท่านอย่างรวดเร็ว และทั่วถึง เราสัญญาว่าทุกกำลังใจ และกอดใหญ่ๆ จากอิมูร่า จะอยู่ข้างทุกๆ ท่านตลอดไป
อาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยที่เข้าสู่กระบวนการให้คีโม
ฉายแสง หรือให้ยามุ่งเป้า  #ส่งฟรี  #มีบริการเก็บปลายทาง

“ดื่มง่าย ดูดซึมง่าย และให้ผลลัพธ์อย่างต่อเนื่อง”

โปรโมชั่น
1 กล่อง 28 ซอง ดื่มได้ 28 วัน
1 กล่อง ปกติ 2,500 บาท เหลือเพียง 2,200 บาท
2 กล่อง ปกติ 5,000 บาท เหลือเพียง 3,900 บาท
** ส่งฟรี มีบริการเก็บปลายทาง **

ด่วนโปรโมชั่นเพียง 50 ท่านเท่านั้น

เลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ I.M.U.RA (อิมูร่า)
ได้แล้วที่ Healthy Valley ทั้ง 2 สาขา
สาขา ปัญญา มาร์เกต ได้ทุกวัน 9.00-20.00 น.
https://goo.gl/maps/NMbjQ41FtbS16RzQ6
สาขา CDC ได้ทุกวัน 9.00-20.00 น.
https://goo.gl/maps/zzUftHGNBZ7YZJ277

อาหารเสริมคนทำคีโม ต้องมีสารอาหารอะไรบ้าง บำรุงร่างกายอย่างไร

อาหารเสริมคนทำคีโม

อาหารเสริมคนทำคีโม

อาหารเสริมคนทำคีโมคืออะไร?

อาหารคือตัวช่วยที่จะทำให้ร่างกายของผู้ป่วยฟื้นฟูได้ดีขึ้น เพราะเป็นการเติมสารอาหารที่จำเป็นให้กับร่างกาย โดยปกติแล้วก่อนการทำคีโมแพทย์จะประเมินความพร้อมของร่างกายผู้ป่วยว่าแข็งแรงพอที่จะรับการรักษาด้วยคีโมได้หรือไม่ การทานอาหารเสริมจึงทานได้ทั้งก่อนการทำคีโมเพื่อให้ร่างกายพร้อมรับการรักษา และทานระหว่างหรือหลังการรักษาเพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาแข็งแรง การเลือกอาหารเสริมจึงควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสารอาหารครบถ้วน ช่วยบำรุงร่างกายของผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี

สารอาหารในอาหารเสริมคนทำคีโม พร้อมประโยชน์ต่อร่างกาย

อาหารเสริมคนทำคีโมควรมีสารอาหารที่ครบถ้วน จำเป็นต่อร่างกาย สามารถทานได้ง่าย มีปริมาณที่ทำให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอต่อวัน เนื่องจากสารอาหารแต่ละอย่างมีประโยชน์ต่อร่างกายแตกต่างกันไป เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารเหล่านั้นครบถ้วนก็จะช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสารอาหารจำเป็นที่ต้องมีอยู่ในอาหารเสริมมีดังต่อไปนี้

โปรตีน
โปรตีนคือสารอาหารที่จำเป็นอันดับต้น ๆ ของอาหารเสริมคนทำคีโม

1.โปรตีน

โปรตีนคือสารอาหารที่จำเป็นอันดับต้น ๆ ของอาหารเสริมคนทำคีโม เพราะโปรตีนมีส่วนช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมส่วนที่ถูกมะเร็งทำลาย เสริมสร้างกล้ามเนื้อและระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย อาหารเสริมที่เพิ่มโปรตีนให้กับร่างกายผู้ป่วยมักมาในรูปแบบของโปรตีนไข่ขาว เนื่องจากเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ไขมันต่ำ และเป็นแหล่งของกรดอะมิโนซึ่งจำเป็นต่อร่างกาย

2.ธาตุเหล็กและสังกะสี

อาหารเสริมคนทำคีโมควรมีสารอาหารที่ช่วยเพิ่มและบำรุงเลือดให้กับร่างกายผู้ป่วยด้วย โดยธาตุเหล็กจะช่วยบำรุงในส่วนของเม็ดเลือดแดง ซึ่งมีหน้าที่ขนส่งออกซิเจนให้กับเซลล์ต่าง ๆ ในร่างกาย ในขณะที่สังกะสีจะช่วยเพิ่มเม็ดเลือดขาว ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เมื่อจำนวนเม็ดเลือดขาวเพิ่มขึ้นจนถึงเกณฑ์ที่กำหนดก็จะทำให้ร่างกายผู้ป่วยพร้อมรับการรักษาด้วยคีโมต่อไป

วิตามินและเกลือแร่
วิตามินที่สำคัญต่อร่างกายมีหลายชนิด แต่ที่ควรเน้นเป็นพิเศษในอาหารเสริมคนทำคีโม

3.วิตามินและแร่ธาตุ

วิตามินที่สำคัญต่อร่างกายมีหลายชนิด แต่ที่ควรเน้นเป็นพิเศษในอาหารเสริมคนทำคีโมคือวิตามินซีและวิตามินบี โดยวิตามินซีจะช่วยส่งเสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยในการสร้างเนื้อเยื่อและเซลล์ต่าง ๆ ในขณะที่วิตามินบีจะช่วยบำรุงระบบประสาท นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยยับยั้งการทำงานของเซลล์มะเร็ง ทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารเสริมเป็นสารสกัดจากผักผลไม้หลากสีนั่นเอง

ไขมัน

4.ไขมัน

ไขมันยังคงเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับร่างกายของผู้ป่วย แต่ต้องเป็นไขมันดีและอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมเท่านั้น โดยเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไขมันปลาที่มีโอเมก้า 3 จะช่วยลดอาการปวดหรืออาการอักเสบตามร่างกาย ช่วยบำรุงผิวให้มีสุขภาพดี อย่างไรก็ตาม การทานน้ำมันปลาในลักษณะอาหารเสริมควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพราะอาจไม่เหมาะกับผู้ป่วยทุกคน

จะเห็นได้ว่าอาหารเสริมคนทำคีโมคือการเสริมสร้างสารอาหารที่ร่างกายทุกคนควรได้รับ แม้จะเป็นผู้ป่วยมะเร็งสารอาหารเหล่านี้ก็ยังคงจำเป็นเพื่อให้ร่างกายแข็งแรง พร้อมรับการรักษาได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น นอกจากอาหารเสริมแล้ว อาหารหลักของผู้ป่วยที่ทานควบคู่กันควรเป็นอาหารที่มีคุณภาพและดีต่อร่างกายของผู้ป่วยในทุก ๆ ด้านอีกด้วย

ข้อแนะนำในการดื่มอาหารเสริม

ผู้ป่วยควรได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอต่อความร่างกายของร่างกาย และควรได้รับการพักผ่อนอย่างเพียงพอ และออกกำลังกายเล็กๆ น้อยๆ ตามความเหมาะสมและตามกำลังของร่างกายที่สามารถทำได้ ควรเสริมอาหารหากร่างกายมีอาการข้างเคียงดื่ม I.M.U.RA เสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน อีกทั้งช่วยลดอาการต่างๆ ได้อย่างดี เช่นอาการอาเจียน เวียนศีรษะ ปวดศีรษะ นอนไม่ค่อยหลับ ่เจ็บลิ้น เจ็บปาก ปากเป็นแผล ผมร่วง

วิตามินแร่ธาตุต่างๆในสารอาหารจะช่วยซ่อมแซมและบำรุงระดับชั้นเซลล์ เช่นผมร่วง ช่วยให้ผมที่ขึ้นใหม่แข็งแรง ลองสังเกตุคนทำคีโม เมื่อผมขึ้นใหม่จะสวยมากๆ เลยค่ะ

วิธีดื่ม I.M.U.RA ดื่มก่อนนอนวันละ 1 แก้ว และควรรับการพักผ่อนอย่างเต็มที่ อาหารเสริมเหมาะกับสภาพแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน บางท่านอาจจะมีอาการแพ้ในเบื้องต้น เวียนศีรษะ มึนศีรษะ แนะนำให้ทานแล้วนอน เพื่อให้ร่างกายปรับสภาพสร้างสมดุลก่อน และทดลองทานในช่วง 1 สัปดาห์แรก และควรทานต่อเนื่องจนกว่าจะจบกระบวนการรักษา

แต่หากท่านใดมีอาการแพ้เวียนศีรษะ อาจจะลองหยุดทานสัก 1-2 วัน แล้วลองกลับมาทานใหม่อีกครั้ง ทุกอย่างร่างกายต้องมีการปรับสภาพก่อนนะคะ

ปรึกษาปัญหาสุขภาพติดต่อช่องทาง Line : Imuramamasita

ผลกระทบหลังทำคีโมเกิดจากอะไร ต้องรับมืออย่างไรบ้าง

ผลกระทบหลังทำคีโม
ผลกระทบหลังทำคีโม
ผลกระทบหลังทำคีโมที่หลายคนรู้จักคืออาการผมร่วง แต่ที่จริงแล้วการทำคีโมมีผลกระทบต่อร่างกายหลายด้านไม่ใช่เฉพาะผมร่วงอย่างเดียว ผู้ป่วยที่ได้รับการทำคีโมจึงต้องรับมือด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี ไม่ว่าจะเป็นอาการอ่อนเพลีย อาการเจ็บปวดตามร่างกาย ระบบการขับถ่ายผิดปกติ ทานอาหารได้น้อยลง และอื่น ๆ ถึงแม้อาการจากผลข้างเคียงเหล่านี้จะหายได้หลังสิ้นสุดกระบวนการรักษา แต่ถ้าหากรับมือกับอาการเหล่านี้ได้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้ทำกิจวัตรประจำวันได้ดีมากขึ้น

ผลกระทบหลังทำคีโมรับมือได้ ด้วยการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี

ผลกระทบหลังทำคีโมเกิดจากการที่สารเคมีในตัวยาที่ใช้รักษาร่างกายทำปฏิกิริยาเซลล์ในร่างกาย เพราะถึงแม้ว่าจุดประสงค์หลักในการทำคีโมคือการทำลายเซลล์มะเร็งในร่างกาย แต่สารเคมีที่ใช้ในการรักษาก็สามารถส่งผลกระทบไปยังระบบอื่น ๆ ในร่างกายได้ด้วย จึงทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมานั่นเอง การรับมือผลข้างเคียงเพื่อบรรเทาอาการเป็นการดูแลตัวเองเพื่อส่งเสริมการรักษาอีกทางหนึ่ง ซึ่งสามารถทำได้ตามวิธีการเหล่านี้
1. ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารและการดื่มน้ำ
ผลกระทบหลังทำคีโมที่เกิดขึ้นกับระบบย่อยอาหารและระบบขับถ่ายคืออาการท้องผูก ท้องเสีย คลื่นไส้ และอาเจียน จึงต้องปรับพฤติกรรมการทานอาหารด้วยการทานในปริมาณน้อยแต่แบ่งออกเป็นมื้อย่อย ๆ หลายมื้อต่อวัน ลักษณะของอาหารควรอ่อนนุ่ม ทานง่าย ย่อยง่าย มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างเพียงพอ ทานผักผลไม้โดยหลีกเลี่ยงชนิดที่ทำให้ท้องอืด ระหว่างทานให้เคี้ยวอย่างละเอียด ทานช้า ๆ ไม่รีบเร่ง นอกจากนี้ ควรดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวัน โดยใช้วิธีค่อย ๆ จิบ จิบบ่อย ๆ หรือเสริมด้วยจิบเกลือแร่บ่อย ๆ เพื่อป้องกันอาการขาดน้ำและอ่อนเพลียจากอาการท้องเสีย
2. พักผ่อนให้เพียงพอทั้งร่างกายและจิตใจ
ผลกระทบหลังทำคีโมทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย จึงจำเป็นต้องนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ โดยนอนตามเวลาที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายมีระบบการพักผ่อนที่สม่ำเสมอ ไม่ควรนอนระหว่างวันมากเกินไปแต่ให้กำหนดเป็นเวลางีบเป็นช่วง ๆ ไม่เกิน 20 นาทีต่อครั้ง แต่ผู้ป่วยหลายคนมักมีภาวะนอนไม่หลับ จึงต้องอาศัยการพักผ่อนด้านจิตใจด้วย โดยทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียดง่าย หางานอดิเรกที่ชอบมาทำเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลาย
3. ใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายที่อ่อนโยนต่อผิวหนัง
ผม ขน และผิวหนังของผู้ป่วยหลังทำคีโมจะอ่อนแอและบอบบางกว่าปกติ ผลกระทบหลังทำคีโมจึงทำให้เกิดอาการผมร่วง ผิวแห้ง ปากแห้ง มีรอยแดงและรอยช้ำเกิดขึ้นได้ง่าย การดูแลสุขอนามัยของศีรษะและผิวหนังจึงต้องอาศัยความอ่อนโยน ไม่ขัดถูแรง ๆ ไม่ใช้น้ำร้อนอาบหรือสระผม รวมถึงใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวที่มีความอ่อนโยน ทั้งสบู่ แชมพูสระผม ลิปมัน แปรงสีฟันขนนุ่ม และยาสีฟันที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ เพื่อบำรุงผิวไม่ให้เกิดอาการแพ้และอาการระคายเคืองต่าง ๆ เข้ามารบกวนเพิ่มมากขึ้น
ผลกระทบหลังทำคีโมอาจทำให้ผู้ป่วยใช้ชีวิตได้ลำบากกว่าปกติ แต่ถ้าหากได้รับการดูแลอย่างถูกต้อง พักผ่อนให้เพียงพอ และได้รับการดูแลสภาพจิตใจควบคู่กันไปด้วย ก็จะช่วยให้ผู้ป่วยมีกำลังใจ ไม่ท้อถอย มีแรงใจที่จะดูแลตัวเองตลอดกระบวนการรักษา เมื่อสิ้นสุดการรักษาแล้วก็ควรสังเกตอาการและดูแลตัวเองอย่างถูกต้องต่อไปเพื่อให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น

เคมีบำบัดกับการรักษามะเร็ง

เคมีบำบัดกับการรักษาโรคมะเร็ง-www imurathailand

ปัญหาจากการทำคีโม-เคมีบำบัด

โรคมะเร็ง เป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญทั่วโลกและเป็นสาเหตุการตายที่สำคัญ โดยมะเร็งที่พบบ่อยเป็นอันดับหนึ่ง ได้แก่

  1. มะเร็งปอด
  2. มะเร็งเต้านม
  3. มะเร็งลำไส้ใหญ่
  4. มะเร็งกระเพาะอาหาร

    ส่วนมะเร็งที่เป็นสาเหตุการตายอันดับหนึ่ง คือ

    –  มะเร็งปอด
    – มะเร็งกระเพาะอาหาร
    – มะเร็งตับ
    – มะเร็งลำไส้ใหญ่

นอกจากนี้ยังมีโรคมะเร็งที่พบได้อีก เช่น มะเร็งตับอ่อน มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งปากมดลูก มะเร็งรังไข่ มะเร็งศีรษะและลำคอ มะเร็งกระดูก มะเร็งต่อมลูกหมาก มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ การรักษามะเร็งด้วยยาเคมีบำบัดเป็นรูปแบบการรักษาที่สำคัญและเป็นการรักษาแรกที่นำมาใช้รักษาโรคมะเร็งที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติอีกครั้ง

มะเร็งที่รักษาให้หายขาดได้

โรคมะเร็งที่รักษาให้หายขาดได้ (Curable Cancer) นั้น ส่วนใหญ่ถ้าสามารถวินิจฉัยได้ในระยะเริ่มแรก โดยมากจะรักษาให้หายขาดได้ด้วยการผ่าตัด เช่น โรคมะเร็งเต้านม โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น แต่หากวินิจฉัยเมื่อโรคเป็นมากแล้วและมีการแพร่กระจายไปยังอวัยวะต่าง ๆ มักไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

แต่ปัจจุบันด้วยความก้าวหน้าในการรักษาโรคมะเร็ง ทำให้โรคมะเร็งบางชนิดที่แม้มีการแพร่กระจายไปแล้วก็สามารถรักษาให้หายขาดได้ โดยโรคมะเร็งที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ (Curable) ด้วยยาเคมีบำบัด ประกอบไปด้วย
1. โรคมะเร็งอัณฑะ
2. โรคมะเร็งเนื้อรก หรือ Choriocacinoma
3. โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองบางชนิด
4. โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวบางชนิด

วิธีการรักษาโรคมะเร็ง

การรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบันส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาแบบสหสาขา หมายถึง การรักษาโดยทีมแพทย์หลายสาขาร่วมกัน ประกอบด้วย
• แพทย์รังสีวินิจฉัย
• แพทย์รังสีร่วมรักษาช่วยในการวินิจฉัย การตัดชิ้นเนื้อเพื่อการวินิจฉัย การฉีดยาเคมีบำบัดเข้าสู่เส้นเลือดแดงที่เลี้ยงก้อนมะเร็งโดยตรง
• ศัลยแพทย์โรคมะเร็งที่ทำการผ่าตัดเอาก้อนมะเร็งออก
• แพทย์ทางรังสีรักษาที่ให้การรักษาด้วยแสงรังสีรักษา
• อายุรแพทย์มะเร็งวิทยาที่ให้การรักษาทางยา ซึ่งประกอบไปด้วย
◦ การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) นับเป็นการรักษาหลักของการรักษาทางยาที่ใช้มากที่สุดในการรักษาโรคมะเร็งปัจจุบัน  โดยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) อาจใช้เป็นการรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอย่างเดียว หรืออาจใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับรังสีรักษาที่เรียกว่า Chemoradiation อาจใช้ยาเคมีบำบัดร่วมกับยามุ่งเป้า หรือยาภูมิคุ้มกันบำบัดได้ โดยขึ้นอยู่กับชนิดและระยะของโรคมะเร็ง
◦ การรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน (Hormonal Therapy) นับเป็นการรักษาที่ใช้รองลงมาจากการรักษาด้วยยาเคมีบำบัด
◦ การรักษาด้วยยามุ่งเป้า (Targeted Therapy)
◦ การรักษาด้วยภูมิคุ้มกันบำบัด (Immunotherapy) โดยการพยายามใช้ภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง

ระยะโรคมะเร็งและแนวทางการรักษา

วิธีการรักษาโรคมะเร็งจะมีแนวทางการรักษาตามระยะของโรคมะเร็งโดยทั่วไปแบ่งเป็น 4 ระยะ ได้แก่

• โรคมะเร็งระยะที่ 1 – 2 คือ

โรคมะเร็งระยะแรกที่สามารถผ่าตัดได้ หลังการผ่าตัดผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องให้การรักษาเสริมภายหลังด้วยยาเคมีบำบัดและ / หรือยาต้านฮอร์โมน ที่เรียกว่า Adjuvant Treatment

• โรคมะเร็งระยะที่ 3 คือ

โรคมะเร็งที่มักมีการลุกลามมากขึ้น โดยมีการกระจายไปต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียงบางรายสามารถผ่าตัดได้ ศัลยแพทย์ก็จะผ่าตัดก่อน หลังการผ่าตัดผู้ป่วยบางรายอาจจำเป็นต้องให้การรักษาเสริมภายหลังด้วยยาเคมีบำบัด และ / หรือรังสีรักษา และ / หรือยาต้านฮอร์โมน  และ / หรือยามุ่งเป้า  เหตุผลที่มีการนำเอายาเคมีบำบัดและยาอื่น ๆ มาให้เสริมหลังผ่าตัดก็เพื่อลดอุบัติการณ์ของการกลับมาของโรคมะเร็งทั้งแบบเฉพาะที่และแบบแพร่กระจาย ซึ่งท้ายที่สุดจะเพิ่มระยะเวลาการรอดชีวิตของผู้ป่วย
ในบางรายที่โรคเป็นมากและการผ่าตัดอาจทำได้แต่ผลการรักษาอาจไม่ดีเนื่องจากขนาดก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่จึงมีการนำเอายาเคมีบำบัดมาใช้รักษาในระยะเบื้องต้นก่อนการผ่าตัดเพื่อให้ก้อนเล็กลงทำให้ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดเก็บอวัยวะหรือผ่าตัดเก็บเต้านมได้ จากนั้นก็ให้การรักษาอื่นตามในภายหลัง

ในบางรายที่โรคเป็นมากและการผ่าตัดอาจทำได้แต่ผลการรักษาอาจไม่ดีเนื่องจากขนาดก้อนเนื้องอกมีขนาดใหญ่จึงมีการนำเอายาเคมีบำบัดมาใช้รักษาในระยะเบื้องต้นก่อนการผ่าตัดเพื่อให้ก้อนเล็กลงทำให้ศัลยแพทย์สามารถผ่าตัดเก็บอวัยวะหรือผ่าตัดเก็บเต้านมได้ จากนั้นก็ให้การรักษาอื่นตามในภายหลัง

• โรคมะเร็งระยะที่ 4

หรือโรคมะเร็งระยะที่ 1 – 3 และมีการกลับมาของโรค ผู้ป่วยจะมีโรคลุกลามมากขึ้นและแพร่กระจายไปอวัยวะต่าง ๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง และที่อื่น ๆ ซึ่งโรคมะเร็งระยะที่ 4 นี้ โรคมะเร็งบางชนิดสามารถรักษาให้หายขาดได้ด้วยยาเคมีบำบัด เช่น โรคมะเร็งอัณฑะ โรคมะเร็งเนื้อรก เป็นต้น

การรักษาแบบเคมีบำบัดคืออะไร?

การรักษาด้วยเคมีบำบัด หมายถึง การให้ยาซึ่งมีฤทธิ์ทำลายหรือหยุดยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์เนื้อร้าย บางครั้งอาจมีผลทำให้เซลล์ปกติของร่างกายถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดอาการข้างเคียง เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปากอักเสบ เบื่ออาหาร ภูมิต้านทานต่ำ ท้องเสีย ผมร่วง ซึ่งอาการเหล่านี้จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของยา สภาวะความแข็งแรงของร่างกาย รวมถึงความพร้อมทางด้านจิตใจของผู้ป่วย

วิธีการให้เคมีบำบัดมี 2 วิธี

  • ยาเคมีบำบัดสามารถบริหารเข้าสู่ร่างกายของผู้ป่วยได้หลายวิธี ได้แก่
  • เคมีบำบัดชนิดรับประทาน
  • เคมีบำบัดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือด

ระยะเวลาในการรักษาด้วยเคมีบำบัด

ระยะเวลาในการรักษาด้วยเคมีบำบัดขึ้นอยู่กับชนิดของโรค ระยะของโรค และการตอบสนองต่อยา โดยปกติยาเคมีบำบัดจะให้เป็นชุด ใช้เวลา 1-5 วันต่อชุด แต่ละชุดห่างกัน 3-4 สัปดาห์ ซึ่งผู้ป่วยอาจได้รับเคมีบำบัดเฉลี่ย 6-8 ชุด (ขึ้นกับแผนการรักษาของแพทย์) โดยผู้ป่วยควรมารับยาตามนัดทุกครั้งเพื่อผลการรักษาที่ดี

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับเคมีบำบัด

  • ด้านร่างกาย
    รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ พักผ่อนให้เพียงพอและเพิ่มการนอนพักในช่วงกลางวันอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมงต่อวัน หากมีโรคประจำตัว เช่น หัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง หรือโรคที่ต้องรับประทานยาเป็นประจำ ต้องแจ้งให้แพทย์ผู้รักษาทราบ
  • ด้านจิตใจ
    ควรทำอารมณ์และจิตใจให้พร้อมรับการรักษา ลดความกลัวและความวิตกกังวลลง
    มั่นใจในวิทยาการสมัยใหม่ ซึ่งสามารถลดอาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
    ถ้าท่านรู้สึกไม่สบายใจเกี่ยวกับโรค การรักษา การดูแลตนเอง ควรปรึกษาแพทย์และพยาบาล

การดูแลตนเองขณะรับเคมีบำบัด

สังเกตผิวหนังบริเวณที่ฉีดยา ถ้ารู้สึกปวด บวม แดง หรือสงสัยมียารั่วซึมออกนอกหลอดเลือด ต้องแจ้งพยาบาลทันที
ดื่มน้ำมากๆ เพื่อช่วยขับสารเคมีที่อาจตกค้างในร่างกายออกทางปัสสาวะ
ถ้ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ให้แจ้งพยาบาลทันที

เคมีบำบัด

บทสรุป

อย่างไรก็ตามโรคมะเร็งระยะแพร่กระจายนี้ส่วนมากรักษาไม่หายขาดแต่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้หากผู้ป่วยมีกำลังใจดีมีร่างกายที่แข็งแรงและมีภาวะโภชนาการที่ดีพอสมควร แพทย์จะสามารถให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) ที่เป็นการรักษาหลักในการรักษาโรคมะเร็งระยะแพร่กระจาย โดยยาเคมีบำบัดจะไปหยุดการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ทั้งที่อยู่เฉพาะที่และที่แพร่กระจายไป ในปัจจุบันมีการนำยามุ่งเป้าหรือยาภูมิคุ้มกันบำบัดมาใช้ร่วมกับยาเคมีบำบัดเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของยาเคมีบำบัดในการรักษาโรคมะเร็ง หากการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยาเคมีบำบัดและยาที่ใช้ร่วมด้วยนั้นได้ผลดี การรักษาก็จะเพิ่มระยะเวลาการรอดชีวิตของผู้ป่วยได้และคุณภาพชีวิตก็จะดีขึ้นตามไปด้วย

นอกจากนี้การรักษาอื่นๆของโรคมะเร็งระยะที่ 4 อาจเป็นการรักษาด้วยยาต้านฮอร์โมน การรักษาด้วยยามุ่งเป้า หรือ Targeted Therapy และ ภูมิคุ้มกันบำบัด
(Immunotherapy) แล้วแต่ชนิดของโรคมะเร็ง

อย่างไรก็ตามหน้าที่การรักษาเป็นของคุณหมอ หน้าที่เตรียมร่างกายเป็นของเรา ให้อิมูร่าดูแลคุณในทุกครั้งก่อนและหลังการให้เคมีบำบัด เพื่อเตรียมความพร้อมร่างกายในการรักษาครั้งต่อไป

จำหน่ายอาหารเสริมเพิ่ม Nk Cell-9สารสกัดที่สำคัญ

ทำไมต้องทานอาหารเสริม อิมูร่า ลดอาการหลังรับเคมีบำบัด

อิมูร่าเค้าจะเข้าไปดูแลในส่วนที่เป็นผลกระทบจากคีโมหรือเคมีบำบัด เช่น อาเจียน อักเสบในช่องปากและหลอดอาหาร นอนไม่หลับ การอักเสบทั้งหมดที่เกิดภายใน
กระตุ้นเม็ดเลือดขาว ชนิด nk cell และ nk cell activities ให้เพิ่มขึ้นและทำงานเต็มที่ เพื่อเตรียมร่างกายให้อยู่ในความสมบูรณ์เต็มที่ พร้อมให้เคมีบำบัด ฉายแสง หรือยาพุ่งเป้า
หลังจากที่ทานอิมูร่าแล้ว สารสกัด Resveratrol ในอิมูร่าจะเข้ามาดูแลเรื่องของเซลล์ที่ถูกทำลายจากคีโม เสริมสร้างเซลล์เกิดใหม่ เราเรียกว่าเซลล์เด็ก เมื่อคีโมเข้าร่างกายเค้าทำลายทั้งัเซลล์ร้ายและดีที่ตาย อิมูร่าก็จะเจ้าไปดูตรงนั้น ลดการอักเสบในระดับเซลล์
และยังมีCb drive ช่วยในเรื่องของลดความเจ็บปวด อาเจียน และช่วยเรื่องการนอนหลับค่ะ
CB DRIVE คือ สารสกัดที่ให้ฤทธิ์เทียบเท่ากัญชา ทั้งหมดจะเป็นกลไกการทำงานของอิมูร่า ซึ่งสารสกัดนี้ได้มาจากเมล็ดองุ่น ดังนั้นผู้ป่วยที่จะเริ่มต้นดื่มอิมูร่า ไม่ต้องกังวลว่าจะติดเพราะไม่ใช่สารสกัดจากกัญชาโดยตรง ถึงแม้ว่าจะมีสารสกัดจากน้ำมันกัญชา ซึ่งก็ใช้ปริมาณที่ต่ำมากๆ
อาหารเสริมสำหรับคนทำคีโมหรือเคมีบำบัด

วิธีการดื่มอิมูร่า ลดผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด

ข้อแนะนำควรดื่มอย่างต่อเนื่องทุกวัน เดือนละ 1 กล่อง (1กล่องดื่มได้ 28 วัน)
อย่าลืมว่าเซลล์ที่ถูกทำลายด้วยภาวะของโรค ซ้ำด้วยเคมี มันไม่ง่ายที่จะสร้างตัวเองให้แข็งแรงด้วยซ้ำ อย่างที่ลูกค้าบอกคะ ว่าอนาคตไม่รู้แต่ถ้าเราเตรียมพร้อมไว้

ภูมิคุ้มกันมีมากจนเวลาที่ถูกทำลายด้วยคีโมเค้าก็ยังมีเหลือ แต่ถ้าเราไม่มีอะไรช่วยเลย ทุกๆครั้งของการรับเคมีเข้ามา ถ้าอาหารที่เรารับประทานเข้าไปมันสร้างได้ไม่พอ หรือช้ากว่าที่จะช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเคมีได้ เวลามันย้อนกลับไม่ได้เพียงวันละไม่ถึง 70 บาท
พร้อมดื่มวันนี้หรือยัง? ดื่มจบตามแผนการรักษา ก็หยุดทานได้ตามปกติ หรือทานต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันไวรัส

 

I.M.U.RA คืออะไร?​

ปัญหาผลกระทบจากทำคีโม

I.M.U.RA อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell คืออะไร? ทานเพื่ออะไร

จำหน่ายอาหารเสริมเพิ่ม Nk Cell-9สารสกัดที่สำคัญ
จำหน่ายอาหารเสริมเพิ่ม Nk Cell-9สารสกัดที่สำคัญ

I.M.U.RA อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell 

ในอาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน I.M.U.RA นั้นมีสารอาหารที่สำคัญต่อร่างกายในการเพิ่มภูมิคุ้มกันถึง 9 ชนิด เรามาดูกันว่าแต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติอย่างไร

Grape Skin Extract

มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ อีกทั้งยังปรับสมดุลน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกัน NK Cell เพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย

Berry Extract

มีคุณสมบัติ Anthocyanins ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการสร้างภูมิคุมกันอีกทั้งยังช่วยยับยั้งไวรัสได้ในระดับดีอีกด้วย

Cranberr Extract 

มีคุณสมบัติช่วยลด Creatinine ในผู้ป่วยเบาหวานและมีสารโพลีฟีบอลที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานและมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ปกป้องเซลล์จากความเสื่อมและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วย

Magnesium Amino Acid Chelated

มีคุณสมบัติช่วยในการนอนหลับ โดยเป็นตัวที่ช่วยในการสร้างสารเมลาโทนิน ช่วยปรับสมดุลเซโรโทนินในร่างกายให้หลับลึกสบาย ช่วยให้ร่างกายเกิดการฟื้นฟูอย่างเต็มที่ในขณะที่ร่างได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่จะทำให้ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอได้อย่างมีประสิทธิภาพ

D Salina

คุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้าง โกรทแฟคเตอร์ ซึ่งเป็นตัวช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเนื้อเยื่ออื่นๆ 

Inulin

คุณสมบัติส่งเสริมให้จุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้เจริญโต ช่วยป้องกันการติดเชื้อและปรับสภาวะสมดุลของลำไส้ ทำให้ช่วยลดอาการท้องผูก อันเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้เกิดโรคมะเร็งลำไส้ได้

Vitamin B 

คุณสมบัติในการรักษาสุขภาพช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง อีกทั้งวิตามินบียังช่วยเรื่องของการทำงานสมองและบำรุงระบบประสาท คนที่มีอาการมือชา เท้าชา หรือปวดเมื่อยตามนิ้วมือนิ้วเท้า หรือข้อต่างๆ นั่นคือสาเหตุของการขาดวิตามิน B นั่นเอง

Vitamin C

คุณสมบัติของวิตามินซี นอกจากจะมีสารต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังชะลอความเสื่อมของเซลล์ กระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันและ NK Cell แล้ว ยังช่วยเรื่องของชะลอวัย ช่วยเรื่องผิวพรรณให้มีชีวิตชีวาขึ้นอีกด้วยค่ะ

Zinc

มีคุณสมบัติช่วยซ่อมบำรุงระบบเอนไซม์และเซลล์ต่างๆ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสื่อมของเซลล์ได้ (renal demage) จากโรคเบาหวาน

 

เป็นอย่างไรบ้างคะ สารอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้ง 9 ชนิดเรียกได้ว่าสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันเหล่านี้เราคงไม่สามารถที่จะหาอาหารที่มีความสมบูรณ์ครบองค์ประกอบทั้งหมด เพื่อนำรับประทานให้ได้ปริมาณที่เพียงพอ ดังนั้นการทานอาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน จึงมีความจำเป็นเพราะในสารอาหารเพิ่มภูมิคุ้มกันในเครื่องดื่ม I.M.U.RA นั้นเราสกัดจากสารอาหาร ที่ให้ความเป็นธรรมชาติและคงความสมบูรณ์ของวิตามินแร่ธาตุสำคัญที่ร่างกายสามารถดึงไปใช้ได้ในทันทีหลังจากที่ดื่ม  ดังนั้นการดื่มอาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell ของ I.M.U.RA นั้นให้ดื่มขณะตื่นนอนดีที่สุดเพราะร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ทันที

อาหารเสริมจะใช้ได้ผลหรือดูดซึมได้ดีนั้นต้องประกอบกับร่างกายของแต่ละบุคคล ผลลัพธ์จะดีหรือไม่ขึ้นอยู่กับการทานอย่างต่อเนื่อง อย่างน้อย 6-12 เดือน จึงเห็นผลที่แน่ชัดที่สุด อาหารเสริมไม่ใช่ยารักษาโรค จึงควรทานคู่กับยาที่แพทย์สั่งทุกครั้งโดยเว้นระยะห่างจากการดื่มอาหารเสริม 1-2 ชม.

อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK CELL แบรนด์ I.M.U.RA

ผลิตภัณฑ์ นี้ เป็นส่วนหนึ่งของการวิจัย จาก เกาหลีและแคนาดา โดย ทาง อาจารย์หมอดร กำพล และ ดร สรวงจาก สวทช.สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นหน่วยงานในกำกับของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ท่านนำสูตรมาปรับ ใช้ กับทาง คนไข้ ที่ท่านดูแลอยู่ และ ได้ผล ดีมาก ทางด้าน การเพิ่มภูมิคุ้มกัน nk cells activitiesค่ะ ทาง สวทช จึงได้นำผลิตภัณฑ์นี้ มา จำหน่าย เพื่อ ช่วยลดหรือป้องกัน ผลกระทบจากการให้คีโม และ ช่วยให้ความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง ลดลง ค่ะ ท่านเก็บข้อมูลจุดอ่อนและจุดแข็งของเคมีที่เข้าสู่ตัวคนไข้เราจึงเป็นอาหารเสริมที่ควบคู่การรักษา เราดูยาวไปจนถึงวงจรของโรค การตกค้างในร่างกาย การดูดซึม เพื่อป้องกันภาวะเรื่องของไต จนนำไปสู่เบาหวาน

หน้าที่และการทำงานของ I.M.U.RA

อิมูร่าเค้าจะเข้าไปดูแลในส่วนที่เป็นผลกระทบจากคีโม เช่น อาเจียน อักเสบในช่องปากและหลอดอาหาร นอนไม่หลับ การอักเสบทั้งหมดที่เกิดภายใน
กระตุ้นเม็ดเลือดขาว ชนิด nk cell และ nk cell activities ให้เพิ่มขึ้นและทำงานเต็มที่ เพื่อเตรียมร่างกายให้อยู่ในความสมบูรณ์เต็มที่ พร้อมให้คีโม ฉายแสง หรือยาพุ่งเป้า

หลังจากที่ทานอิมูร่าแล้ว สารสกัด Resveratrol ในอิมูร่าจะเข้ามาดูแลเรื่องของเซลล์ที่ถูกทำลายจากคีโม เสริมสร้างเซลล์เกิดใหม่ เราเรียกว่าเซลล์เด็ก เมื่อคีโมเข้าร่างกายเค้าทำลายทั้งัเซลล์ร้ายและดีที่ตาย อิมูร่าก็จะเจ้าไปดูตรงนั้น ลดการอักเสบในระดับเซลล์

และยังมี Cb drive ช่วยในเรื่องของลดความเจ็บปวด อาเจียน และช่วยเรื่องการนอนหลับค่ะ

CB DRIVE คือ สารสกัดที่ให้ฤทธิ์เทียบเท่ากัญชา ทั้งหมดจะเป็นกลไกการทำงานของอิมูร่า ซึ่งสารสกัดนี้ได้มาจากเมล็ดองุ่น ดังนั้นผู้ป่วยที่จะเริ่มต้นดื่มอิมูร่า ไม่ต้องกังวลว่าจะติดเพราะไม่ใช่สารสกัดจากกัญชาโดยตรง ถึงแม้ว่าจะมีสารสกัดจากน้ำมันกัญชา ซึ่งก็ใช้ปริมาณที่ต่ำมากๆ

วิธีการดื่มอิมูร่าให้ได้ผล

ข้อแนะนำควรดื่มอย่างต่อเนื่องทุกวัน เดือนละ 1 กล่อง (1กล่องดื่มได้ 28 วัน)
อย่าลืมว่าเซลล์ที่ถูกทำลายด้วยภาวะของโรค ซ้ำด้วยเคมี มันไม่ง่ายที่จะสร้างตัวเองให้แข็งแรงด้วยซ้ำ อย่างที่ลูกค้าบอกคะ ว่าอนาคตไม่รู้แต่ถ้าเราเตรียมพร้อมไว้

ภูมิคุ้มกันมีมากจนเวลาที่ถูกทำลายด้วยคีโมเค้าก็ยังมีเหลือ แต่ถ้าเราไม่มีอะไรช่วยเลย ทุกๆครั้งของการรับเคมีเข้ามา ถ้าอาหารที่เรารับประทานเข้าไปมันสร้างได้ไม่พอ หรือช้ากว่าที่จะช่วยให้ร่างกายต่อสู้กับเคมีได้ เวลามันย้อนกลับไม่ได้ เพียงวันละไม่ถึง 70 บาทพร้อมดื่มวันนี้หรือยัง? ดื่มจบตามแผนการรักษา ก็หยุดทานได้ตามปกติ หรือทานต่อเนื่องเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันไวรัส

อาหารเสริมสำหรับคนทำคีโม

อาหารเสริมเพิ่มภูมิคุ้มกัน NK Cell เพิ่มภูมิคุ้มกัน ผลิตภัณฑ์จากสารสกัดจากธรรมชาติ สูตรเฉพาะจากงานวิจัย ที่ทำให้ประสิทธิภาพในการสร้างภูมิคุ้มกันสูงสุด 

การสร้างงานวิจัยต่างๆ นั้นใช้เวลานานบางผลิตภัณฑ์ใช้เวลาวิเคราะห์วิจัยสูตรต่างๆ นานเกือบ 10 ปี ยังไม่รวมถึงการทดสอบผลิตภัณฑ์ ดังนั้นสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ผ่านงานวิจัยจึงเป็นผลิตภัณฑ์ค่อนข้างมีคุณภาพอย่างมากเลยทีเดียว 

สินค้าสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้จริง คลิกที่นี่

 
เลขที่ อย. : 1210516150077

อาการข้างเคียงหลังทำคีโมสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง

imura-อาการข้างเคียงหลังทำคีโม-www imurathailand

อาการข้างเคียงหลังทำคีโม ไม่ว่าจะเป็น ร้อนในในช่องปาก ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อและข้อทั้งร่างกาย หรืออาการคลื่นไส้ นอนไม่หลับ ผมร่วง ท้องเสีย ท้องผูก ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เหมือนมีเข็มทิ่มแทง

ซึ่งทุกคนก็น่าจะพอทราบแล้วว่า การทำคีโมนั้นคือการฆ่าและทำลายเซลล์ทั้งหมดในร่างกายไม่ว่าเซลล์ดีหรือเซลล์ร้ายจะถูกทำลายทั้งหมด ดังนั้นผู้ป่วยที่ได้รับคีโมนั้นจะมีร่างกายและภูมิคุ้มกันที่ต่ำกว่าคนปกติทั่วไป เพราะเนื่องจากจำนวนเม็ดเลือดขาวลดต่ำลง จนทำให้ไม่สามารถจัดการกับเชื้อโรคที่เข้ามาในร่างกายได้ดีเหมือนปกติ
ดังนั้นจึงทำให้เกิดอาการต่างๆ ที่เกิดหลังจากการได้รับเคมีบำบัด หรือ คีโม นั่นเอง อาการต่างๆ มีดังต่อไปนี้

» อาการผมร่วง เพราะคีโมไปทำลายเซลล์รากผม จะเกิดขึ้นช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลหากมีอาการผมร่วงแสดงว่าร่างกายตอบสนองในการทำเคมีบำบัด
» อาการคลื่นไส้ ที่เกี่ยวกับการย่อยอาหาร เพราะคีโมมาส่วนทำลายผนังของกระเพราะ (อาจจะเกิดขึ้นกับบางราย แต่โดยทั่วไป 80% ของผู้ป่วยที่ได้รับคีโมจะเกิดขึ้น)
» อาหารและลำไส้ ทำให้ท้องเสียง่ายขึ้น คลื่นไส้ง่ายขึ้น บางรายอาจจะมีอาการท้องผูก
» อาการปวดตามข้อและกล้ามเนื้อ ร้อนในขึ้นในปาก คือการอักเสบ เพราะไขกระดูกที่เปรียบเสมือนโรงงานผลิตเม็ดเลือดขาว ถูกทำให้เสียหาย เม็ดเลือดขาวมีจำนวนน้อยลง เมื่อเกราะป้องกันอ่อนแอ ผลคือปวดเมื่อยรุนแรง ฝ่ามือ ฝ่าเท้าจะร้อนวูบวาบ

อาการดังกล่าวที่เกิดขึ้นเหล่านี้ ประกอบกับความเครียดกังวล ยิ่งทำให้นอนไม่หลับ หลับยาก และหากพักผ่อนน้อยภูมิคุ้มกันก็จะลดลง ทำให้เมื่อเวลาไปตรวจครั้งต่อไปทำให้ผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัด อาจจะมีการรับเคมีต่อไม่ได้ เนื่องจากร่างกายที่อ่อนแอนั่นเอง

ดังนั้นอาการข้างเคียงเหล่านี้ จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความพร้อมของร่างกายก่อนการทำคีโม และการดูแลหลังทำคีโม อย่าลืมว่า อาการข้างเคียงที่รุนแรง ไม่ได้แปลว่าคีโมได้ผลดีกว่าอาการไม่รุนแรงนะคะ

ข่าวดีคือ สารคีโมจะสลายตัวไปภายในเวลา 7-10 วัน และร่างกายของเราจะเริ่ม “สร้าง” ส่วนต่างๆที่เสียหายไป กลับคืนมา ไม่มีอาหารหรือวิธีการใด สามารถช่วยให้จำนวนเม็ดเลือดขาว เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็วในเวลาอันสั้น

ร่างกายของเราต้องใช้เวลาในการ “สร้าง” และฟื้นฟู แต่ สิ่งที่เราทำได้ คือการหา “วัตถุดิบ” และ “เครื่องมือ” ที่ดี ให้ร่างกายสร้างไขกระดูก และฟื้นฟูความแข็งแรงของเซลล์ให้กลับมาได้เร็วขึ้น

  • “วัตถุดิบ” ที่ดี คือสารอาหารที่เราเลือกทานหลังทำคีโมนั่นเอง

วัตถุดิบชั้นดีที่ช่วยสร้างไขกระดูกให้กลับมาผลิตเม็ดเลือดขาว คือโปรตีน วิตามิน B12 วิตามิน C และ โฟเลตการเลือกทานอาหารที่มีสารอาหารจำเป็นเหล่านี้ คือการให้ “วัตถุดิบ” กับร่างกาย

  •  “เครื่องมือ” ที่ใช้แปลง “วัตถุดิบ” ที่ช่วยฟื้นฟูไขกระดูกที่จะไปสร้างเม็ดเลือดขาวกลับมา ก็คือการนอนหลับอย่างมีคุณภาพ ลดความเครียดกังวล เพราะความเครียดสร้างฮอร์โมนเครียดที่เป็นสาเหตุให้ร่างกายนำ “วัตถุดิบ” ที่เราอุตส่าห์ใส่เข้าไปไปใช้ได้ยากขึ้น

ตัวช่วยที่ทำให้นอนหลับดีขึ้น อย่างสาร CBDrive การออกกำลังกายเบาๆอย่างโยคะ และการผ่อนคลายความกังวลด้วยการฝึกสมาธิ เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ร่างกาย กลับมาฟื้นตัวได้เร็วขึ้น

รู้เท่าทันการทำคีโม กับ I.M.U.RA (อิมูร่า)

I.M.U.RA อาหารเสริม สกัดจากธรรมชาติ เพิ่ม NK Cell activity พร้อมResveratrol สกัดจากเปลือกเมล็ดองุ่น, CBDrive วิตามิน B C และ Zinc ทั้งช่วยกำจัดเซลล์ร้าย และฟื้นฟูเซลล์ดี

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนและหลังทำคีโม ด้วย IMURA Chemo Set

วิธีการรับประทาน
ดื่มวันละ 2 ครั้ง 14 วันต่อเนื่อง ก่อนเข้าทำคีโมบำบัด
และ วันละ 2 ครั้ง 14 วันต่อเนื่อง หลังบำบัด
เลขที่ อ.ย. : 1210516150077
ผลิตและจัดจำหน่ายโดย : บริษัท มามาสิตา จำกัด

ผลกระทบหลังทำคีโม ร่างกายจะติดเชื้อได้ง่าย

ผลกระทบหลังทำคีโม-www imurathailand

หลังทำคีโม ร่างกายจะติดเชื้อได้ง่าย1-www imurathailand

หลังทำคีโม ร่างกายจะติดเชื้อได้ง่าย ??

การรับเคมีบำบัดนอกจากจะทำลายเซลล์มะเร็งแล้ว ยังมีผลกระทบต่อเซลล์ปกติที่แบ่งตัวเร็วในร่างกายอีกด้วย ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงต่าง ๆ เช่น มีไข้ หนาวสั่น ซีด เหนื่อย อ่อนเพลีย มีจุดเลือดจ้ำเลือดตามตัว คลื่นไส้ อาเจียน เจ็บปากเจ็บคอ ท้องเสีย อุจจาระมีสีดำ ท้องผูก ผมร่วง

อาการเหล่านี้มักเกิดหลังจากได้รับยาประมาณ 7-14 วัน นอกจากนี้ อาจพบผลข้างเคียงอื่น ๆ เช่น ผิวหนังและเล็บเปลี่ยนสี ฝ่ามือฝ่าเท้ามีสีดำคล้ำและเจ็บ ชาปลายมือปลายเท้า มีเพศสัมพันธ์ได้ยาก มีบุตรยาก และอารมณ์แปรปรวน เป็นต้น

ผลกระทบหลังทำคีโม ที่พบในแต่ละอาการอาจมีความจำเพาะต่อยาแต่ละชนิดหรือขนาดของยาที่ใช้ นอกจากนี้ ผู้ป่วยแต่ละคนอาจตอบสนองต่อยาชนิดและขนาดเดียวกันแตกต่างกันได้


อาการข้างเคียงเหล่านี้มีผลกระทบหลังทำคีโมหลายอย่างที่ป้องกันได้ โดยแพทย์ผู้รักษาจะเป็นผู้พิจารณาให้ยา หรือมาตรการในการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถมีส่วนร่วมในการแก้ไข บรรเทา หรือป้องกันอาการดังกล่าวได้ ดังนั้น ท่านจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับวิธีการดูแลตัวเองเมื่อได้รับยาเคมีบำบัด เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการรักษาจากยาสูงสุด โดยมีผลข้างเคียงน้อยที่สุด ตามที่ผู้ป่วยและแพทย์ผู้ทำการรักษาตั้งใจไว้

อาการไข้

อาการไข้ หมายถึง การที่มีอุณหภูมิในช่องปากมากกว่าหรือเท่ากับ 38 องศาเซลเซียส เป็นเวลามากกว่าหรือเท่ากับ 1 ชั่วโมง หรือมีอุณหภูมิรักแร้มากกว่าหรือเท่ากับ 37.8 องศาเซลเซียส

สาเหตุ ไข้อาจเป็นอาการนำของภาวการณ์ติดเชื้อ หรืออาการของโรคมะเร็งเอง อาจพบภาวะเม็ดเลือดขาว (ซึ่งทำหน้าที่ต่อสู้เชื้อโรคต่าง ๆ) ต่ำลงและเกิดการติดเชื้อ

ได้เมื่อท่านได้รับยาเคมีบำบัด สังเกตได้จากอาการไข้ รู้สึกหนาวสั่น เจ็บรอบ ๆ ทวารหนักหลังการให้ยาเคมีบำบัด โดยเฉพาะในช่วง 7-14 วัน หลังได้รับยาเคมีบำบัด

วิธีป้องกันการติดเชื้อโดยทั่วไป

– ล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารและหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง
– หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับผู้ที่เป็นไข้หวัดวัณโรค และงูสวัด เป็นต้น
– เมื่อท่านมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในบริเวณที่มีผู้คนแออัด เช่น ตลาด โรงภาพยนตร์ หรือห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
– ดูแลร่างกายไม่ให้อับชื้น อาบน้ำให้สะอาดทุกวัน โดยใช้สบู่อ่อน ๆ เช่น สบู่เด็ก
– ระมัดระวังการใช้ของมีคมทุกชนิด
– หากถูกของมีคมบาด ให้รีบทำความสะอาดแผลและปิดด้วยผ้าพันแผล
– ควรสวมถุงมือทุกครั้งเพื่อป้องกันการเกิดแผลเวลาทำสวน หรืองานก่อสร้าง
– ทาครีมหรือโลชั่นถนอมผิว เพื่อป้องกันผิวแห้งแตก
– รับประทานอาหารที่สุกและสะอาด หลีกเลี่ยงของสุก ๆ ดิบ ๆ  หรือของหมักดอง เช่น แหนม ปลาร้า ก้อย ส้มตำ และยำต่าง ๆ เป็นต้น
– เมื่อท่านมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานผักและผลไม้สด
– แปรงฟันให้สะอาด ด้วยแปรงสีฟันขนนุ่ม
– ควรมีเทอร์โมมิเตอร์สำหรับวัดไข้ติดตัวไว้ ถ้าท่านสงสัยว่ามีไข้ควรวัดอุณหภูมิร่างกายเพื่อยืนยันอาการ
– หากมีอาการไข้ภายหลังจากการได้รับยาเคมีบำบัด ให้รีบมาพบแพทย์โดยด่วน

วิธีการรักษาเมื่อมีไข้

1. รีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดดูว่าเม็ดเลือดขาวต่ำหรือไม่ ถ้าจำนวนเม็ดเลือดขาวต่ำ แพทย์จะฉีดยาปฏิชีวนะให้โดยด่วน และรับตัวไว้รักษาใน

โรงพยาบาลทันที

2. อาจลดความเสี่ยงของการติดเชื้อในช่วงเม็ดเลือดขาวต่ำ หรือในระยะเวลาที่มีไข้และเม็ดเลือดขาวต่ำได้ด้วยการฉีดยากระตุ้นเม็ดเลือดขาว

ซึ่งขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ผู้ดูแล

เพราะการทำคีโมบำบัดทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและเสี่ยงต่อการติดเชื้อง่ายขึ้น เพื่อช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อเพราะภูมิคุ้มกันถูกทำลายและผู้ป่วยควรมีการดูแลตัวเองในเรื่องของสุขอนามัยและความสะอาดในชีวิตประจำวัน ระมัดระวังไม่ให้ผิวหนังเกิดบาดแผลหลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับผู้ที่เป็นโรคติดต่อ หรืออยู่ในสถานที่แออัด แต่ถ้าการระวังอย่างเดียวไม่เพียงพอ อิมูร่ามีคำตอบ….อิมูร่า นวัตกรรมใหม่ในรูปแบบผง

  • 2 รางวัลการันตีจากประเทศแคนาดาและประเทศเกาหลี
  • สารสกัดจากธรรมชาติเกรดพรีเมี่ยม ที่ช่วยเตรียมพร้อมสำหรับการให้คีโมบำบัดและลดผลข้างเคียงหลังจากการให้คีโมบำบัด
  • ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันเพชฌฆาต NK Cell และ NK Cell Activities ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
  • Resveratrol ลดการอักเสบในระดับเซลล์ ช่วยให้คุณหมดกังวล ไม่ต้องทรมานจากคีโม ย่นระยะผลข้างเคียง
  • Nano Encapsulated ไม่ให้สารสกัดสลายตัว คงประสิทธิภาพ ทำให้ร่างกายดูดซึมไปสู่เซลล์เป้าหมายได้ดีที่สุด

ข้อมูลบางส่วนคัดกรองมากจาก : chulacancer.ne