Imurathailand

การดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้เข้ารับทำคีโม การทำความเข้าใจทางร่างกาย และทางด้านจิตใจ พร้อมทั้งศึกษาแนวทาง ฟื้นฟูร่างกายหลังทำคีโม

วิตามินอาหารเสริม

ผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดจำเป็นต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เพื่อช่วยให้พวกเขารับมือกับการรักษาทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และการปฏิบัติการดูแลอย่างเอาใจใส่และมีความเข้าใจในตัวผู้ป่วย และสำหรับวันนี้เราจะมาแชร์และบอกผ่านความรู้สึกที่อยากให้บุคคลที่มีคนรู้จักหรือว่าคนรอบตัวที่กำลังพบกับปัญหาโรคร้ายนี้อยู่ บทความนี้จะกล่าวถึงแง่มุมทางร่างกาย อารมณ์ และการปฏิบัติของการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็ง พร้อมทั้งดูเรื่อง วิตามินอาหารเสริมสำหรับผู้ป่วยหลังทำคีโม เพื่อเข้าใจถึงอาการผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดหรือที่เรียกว่าทำคีโม

ฟื้นฟูร่างกายหลังทำคีโม

การดูแลทางกายภาพหรือร่างกาย

  • การดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีการติดตามสัญญาณชีพและการจัดการผลข้างเคียงจากเคมีบำบัด อย่างเช่นอาการจำพวก อาการคลื่นไส้ ความเหนื่อยล้า และความเจ็บปวด พยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์รวมถึงบุคคลใกล้ชิก จะต้องคอยติดตามสัญญาณชีพ เช่น ความดันโลหิต อัตราการเต้นของหัวใจ และความอิ่มตัวของออกซิเจน ฉะนั้นแล้ว ผู้ที่ต้องรับหน้าที่ดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับการทำคีโมจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงของเคมีบำบัด และรู้วิธีของการให้ยา วิตามินอาหารเสริม ตามที่แพทย์สั่ง สิ่งนี้ต้องบอกเลยว่าก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ค่อนข้างสำคัญในการดูแลร่างกายของผู้ป่วยเช่นกัน นอกจากนี้การทำให้ผู้ป่วยรู้สึกสบายใจระหว่างการรักษาและการให้การดูแลแบบประคับประคองสามารถช่วยบรรเทาอาการไม่สบายทางร่างกายได้ เช่น
  • การให้ยาป้องกันอาการคลื่นไส้ก่อนทำเคมีบำบัดสามารถช่วยป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียนได้
  • การจัดหาสภาพแวดล้อมที่รู้สึกสบาย เช่น ผ้าห่มหรือหมอนอุ่นๆ สามารถช่วยให้ผู้ป่วยผ่อนคลายระหว่างการรักษาได้
  • การจัดการความเจ็บปวด เช่น การนวดหรือการบำบัดเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดและไม่สบายตัวได้เช่นกัน

การดูแลทางอารมณ์

การดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด ทางอารมณ์ของการดูแลผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัดจะเกิดสภาวะทางอารมณ์ ฉะนั้นผู้ดูแลจะต้องเข้าใจและคอยให้กำลังใจกับผู้ป่วย เพราะว่าผู้ป่วยที่ได้รับเคมีบำบัดมักจะตกอยู่กัความวิตกกังวล ความกลัว และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการรักษาโรค ฉะนั้นผู้ที่ดูแลผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้ควรที่จะมีกำลังใจที่ดี และต้องคอยปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต เพื่อนำมาจัดการกับความกลัวและความวิตกกังวลเหล่านี้และคอยอยู่เคียงข้างผู้ป่วยในช่วงเวลาเข้ารักษา จะต้องคอยสนับสนุนผู้ป่วยคอยแบ่งปันความรู้สึกให้เหมือนว่าเรานั้นพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างเขา ตัวอย่างเช่น

  • คุณพยาบาลสามารถใช้เทคนิคการรับฟังเรื่องราวของผู้ป่วยอย่างตื่นเต้นเพื่อกระตุ้นให้ผู้ป่วยแสดงอารมณ์ที่บ่งบอกถึงความกังวลของตนเองออกมา เพื่อให้เรานั้นได้เข้าถึงความรู้สึกและเข้าใจสิ่งที่เขานั้นคิดอยู่ในช่วงนั้น และควรที่จะให้ความรู้เกี่ยวกับเคมีบำบัดจุกนี้สามารถช่วยบรรเทาความวิตกกังวลและความกลัวที่เกี่ยวข้องกับการรักษาของผู้ป่วยลงไปได้

 เคล็ดลับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้เข้ารับทำคีโม ที่สามารถช่วยให้ ฟื้นฟูร่างกายหลังทำคีโม

การดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้เข้ารับทำคีโม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับบุคคลที่ป่วยและต้องการฟื้นตัวจากเคมีบำบัด เคล็ดลับต่อไปนี้สามารถช่วยได้
• การดูแลอาหารการกินที่สมดุลและมีคุณค่าทางโภชนาการเป็นสิ่งสำคัญ เคมีบำบัดอาจทำให้รับประทานอาหารได้ยาก แต่สิ่งสำคัญคือต้องบริโภคแคลอรี่และสารอาหารให้เพียงพอ หาทาน วิตามินอาหารเสริมสำหรับผู้เข้ารับคีโม เพื่อสนับสนุนกระบวนการบำบัดของร่างกายให้ฟื้นตัวเร็ว
• การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เคมีบำบัดอาจทำให้เกิดความเหนื่อยล้าได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นตัว
• การออกกำลังกายเบาๆ และการกายภาพบำบัดสามารถช่วยฟื้นฟูได้เช่นกัน การออกกำลังกายช่วยเพิ่มระดับพลังงาน ลดความเหนื่อยล้า และทำให้อารมณ์โดยรวมดีขึ้น

เคล็ดลับการดูแลผู้ป่วยมะเร็งที่ได้เข้ารับทำคีโม ทางจิตวิทยาเพื่อการฟื้นฟูจากเคมีบำบัด

• การขอความช่วยเหลือจากครอบครัว เพื่อน หรือนักบำบัดสามารถช่วยแต่ละบุคคลรับมือกับอาการทางอารมณ์ของเคมีบำบัดได้ การพูดคุยกับคนที่เข้าใจจะช่วยลดความวิตกกังวลและภาวะซึมเศร้าได้
• การฝึกเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น การทำสมาธิและการหายใจลึกๆ สามารถช่วยให้บุคคลจัดการกับความเครียดและความวิตกกังวลได้ เทคนิคเหล่านี้สามารถช่วยลดอาการทางกายภาพของความเครียดได้ เช่น ความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและอาการปวดหัว
• การผู้ป่วยมะเร็งที่ได้เข้ารับทำคีโม เข้าร่วมกิจกรรมที่สนุกสนานและมีความหมายสามารถช่วยให้แต่ละคนมีทัศนคติเชิงบวกและปรับปรุงความเป็นอยู่ในชีวิตประจำวันได้ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่สร้างความสุขและความรู้สึกมีเป้าหมายสามารถช่วยลดความเครียดและปรับปรุงสุขภาพจิตได้

การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตผู้ป่วยมะเร็งที่ได้เข้ารับทำคีโม มีความสำคัญต่อการฟื้นตัวจากเคมีบำบัดในระยะยาว

• การเลิกสูบบุหรี่และหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสารอันตรายอื่นๆ ถือเป็นสิ่งสำคัญ สารเหล่านี้สามารถเพิ่มความเสี่ยงของโรคมะเร็งและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้
• การติดตามและการจัดการภาวะสุขภาพเรื้อรังเป็นสิ่งสำคัญ เคมีบำบัดสามารถเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องติดตามและจัดการภาวะสุขภาพเรื้อรัง
• การนัดหมายติดตามผลกับแพทย์เพื่อดูแลสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยให้ดพทย์ได้ตรวจพบปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ตั้งแต่เนิ่นๆ การตรวจสุขภาพเป็นประจำสามารถช่วยให้แน่ใจว่าบุคคลต่างๆ อยู่ในแนวทางที่ถูกต้องในการฟื้นตัว

การฟื้นตัวจากเคมีบำบัดต้องใช้แนวทางแบบองค์รวมซึ่งรวมถึงการดูแลตนเองทั้งทางร่างกาย จิตใจ และวิถีชีวิต การทาน วิตามินอาหารเสริม เพียงแค่ปฏิบัติตามเคล็ดลับที่ระบุไว้เพื่อเพิ่มโอกาสในการฟื้นตัวได้เร็ว และสิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าการฟื้นตัวต้องใช้เวลาและความอดทนของแบบนี้ควรให้เวลาอย่าใจร้อนจนเป็นกังวล

ยาเคมีบำบัด คืออะไร

ยาเคมีบำบัด

ยาเคมีบำบัด หรือบางท่านอาจเรียกสั้นๆ ว่า “คีโม” ย่อมาจาก “คีโมเทอราปี” (chemotherapy) หมายถึง สารเคมีหลายชนิดที่ออกฤทธิ์ ต้านหรือทำลายเซลล์มะเร็ง โดยมีเป้าหมายสำคัญคือเซลล์มะเร็งที่แบ่งตัวเร็ว และต่อเนื่อง ยาเคมีบำบัดจะออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวของเซลล์มะเร็ง หลายรูปแบบ ทำให้เซลล์ไม่สามารถแบ่งตัวต่อไปและตายในที่สุด
.ยาเคมีบำบัด
แม้ว่าปัจจุบันยาที่ใช้รักษาโรคมะเร็งส่วนมากยังเป็นการใช้ยาเคมีบำบัด แต่ยาต้านมะเร็งยังรวมถึงยากลุ่มอื่นที่มีฤทธิ์ต่อต้านการเจริญเติบโตของ เซลล์มะเร็งด้วยเช่นกัน ยาเคมีบำบัดแตกต่างจากยาต้านมะเร็งกลุ่มอื่นด้วย กลไกการออกฤทธิ์ไปขัดขวางกระบวนการแบ่งเซลล์ในระยะต่างๆ โดยตรง ขณะที่ยาต้านมะเร็งอื่น เช่น ยาต้านฮอร์โมน ออกฤทธิ์ต้านการสร้างหรือการใช้ ฮอร์โมนในการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง ยาต้านมะเร็งแบบมุ่งเป้า (targeted therapy) อาจออกฤทธิ์ต้านการทำงานของโปรตีนในเซลล์มะเร็ง แล้วจึงมีผล ต่อการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในภายหลัง
.
เคมีบำบัด คือ การนำสารเคมีหรือยามาใช้ในการรักษามะเร็ง ยาเหล่านี้ถือว่าเป็นยาต่อต้านมะเร็ง ยาเคมีบำบัดจะเข้าไปขัดขวางขบวนการเจริญเติบโตของวงจรชีวิตเซลล์ทำให้เซลล์ตาย ยาแต่ละตัวออกฤทธิ์แตกต่างกัน ในการรักษาผู้ป่วยมะเร็งอาจให้การรักษาด้วยยาเคมีบำบัดอย่างเดียว บางแผนการรักษาประกอบด้วยยาหลายชนิดที่ให้ร่วมกัน หรือให้ร่วมกับการรักษาวิธีอื่นเมื่อให้ยาเคมีบำบัดเข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายเซลล์มะเร็ง เเละทำลายเซลล์ปกติบางส่วนทำให้มีผลกระทบต่อเซลล์ปกติด้วย โดยเฉพาะเซลล์ที่มีการเจริญและแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว เช่นเซลล์เยื่อบุทางเดินอาหาร, เม็ดเลือด, เส้นผม และระบบสืบพันธุ์ (รังไข่, ลูกอัณฑะ) ดังนั้น จึงเป็นสาเหตุของอาการข้างเคียงหรืออาการไม่พึงประสงค์ระยะหนึ่งในระหว่างการให้ยาแต่ละชุด

อาการข้างเคียงที่พบบ่อย เช่น คลื่นไส้อาเจียน, ผมร่วง, แผลในปาก, ปริมาณเม็ดเลือดลดลง เป็นต้น อาการข้างเคียงที่ต้องปรึกษาแพทย์ เช่น มีเลือดออกหรือเป็นแผลในปากมาก, มีผื่นหรืออาการแพ้, มีไข้ หนาวสั่น, ปวดมากบริเวณที่ฉีด, หายใจลำบาก, ท้องเดินหรือท้องผูกอย่างรุนแรง, ปัสสาวะหรืออุจจาระมีเลือดปน

วิธีปฏิบัติตนเมื่อมีอาการข้างเคียง

• รับประทานอาหารอ่อนๆ ย่อยง่าย
• รับประทานครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยครั้ง
• หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสจัด มีไขมัน และของทอดทุกชนิด
• ทำความสะอาดปากและฟันหลังอาหารทุกมื้อ
• ถ้ารู้สึกคลื่นไส้ ให้พักผ่อนและสูดหายใจยาวๆ ลึกๆ ช้าๆ
• ควรรีบปรึกษาแพทย์ หากมีอาการคลื่นไส้และอาเจียนมากตลอดวัน และรับประทานอาหารได้น้อยมาก
.
นอกจากนี้เราควรหาอาหารเสริมที่เสริมสร้างวิตามินให้กับร่างกายและช่วยให้การพักฟื้นหลังการทำคีโมได้เร็วขึ้นด้วย
.

“IMURA” (อิมูร่า) วิตามินอาหารเสริมสำหรับผู้ที่เตรียมเข้ารับคีโมและป้องกันความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
.
✅ปกป้องเซลล์ในร่างกาย ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง
✅สร้างภูมิคุ้มกันระดับเซลล์ ชะลอความเสี่ยงของเซลล์
✅เตรียมพร้อมร่างกายก่อนทำคีโม
✅ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและร่างกายฟื้นฟูตัวได้ไวกว่าปกติ
✅ทำให้ทานอาหารได้และพักผ่อนได้เพียงพอ
✅ลดอาการบาดเจ็บจากแผลในปาก
✅ร่างกายได้วิตามินที่ครบถ้วน

ให้ IMURA ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยให้คุณสามารถยืนหยัดสู้กับโรคร้ายให้ผ่านพ้นไปได้อย่างแข็งแรง